8 บาร์ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ จาก Asia’s 50 Best Bars 2023

บาร์ในโรงแรม Four Seasons Bangkok ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ได้ ‘ฟิลิป บิชอป’ มิกโซโลจิสต์ ชาวเยอรมันมารับหน้าที่ดูแลเครื่องดื่ม จนกลายเป็นบาร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ไปเรียบร้อยแล้ว การันตีด้วยอันดับ 14 จาก World’s 50 Best Bars 2022 และอันดับ 3 จาก Asia’s 50 Best Bars 2023 ที่เพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ

สำหรับคอนเซ็ปต์ของร้าน บิชอปได้นำแรงบันดาลใจมาจากสองเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความรื่นเริงสังสรรค์อย่างกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา และกรุงเทพฯ ความรู้สึกแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาในพื้นที่ของบาร์คือ เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของหนังเรื่อง Great Gatsby ด้วยซุ้มโลหะโค้งสีทองที่มีให้เห็นรอบร้าน บาร์และโต๊ะที่ทำจากหินอ่อน โซฟาหนังสีคาราเมลที่ดูมีระดับ เครื่องดื่มที่ BKK Social Club จะแบ่งเป็น 3 ประเภท แทนสถานที่ สัญลักษณ์และวัฒนธรรมของชาวอาร์เจนตินา และยังมีของกินที่เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นเมนูสไตล์ละตินอเมริกา

BKK Social Club ตั้งอยู่ที่โรงแรม Four Seasons Bangkok ถนนเจริญกรุง เปิดทุกวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่ 17.00-23.00 น.

อีกหนึ่งบาร์ในกรุงเทพฯ ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2014 ติดอันดับ 79 ของ World’s 50 Best Bars ปี 2022 ส่วนเวที Asia’s 50 Best Bars ก็ได้รางวัล 8 ปีติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2016 จนถึงปัจจุบันที่อยู่ในอันดับ 12 ของ Asia’s 50 Best Bars 2023

.

ช่วงปลายปีที่ผ่านมาร้านเพิ่งฉลองครบรอบ 8 ปีด้วยการปล่อยเมนูใหม่ในคอนเซ็ปต์ People of Vesper ที่ได้แรงบันดาลใจจากเหล่าผู้คนที่เป็นลูกค้าของร้าน ประกอบไปด้วยซิกเนเจอร์ค็อกเทล 14 แก้วที่ทวิสต์มาจากคลาสสิกค็อกเทลเพื่อสะท้อนบุคลิก ตัวตน และความชื่นชอบของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ไล่เรียงมาตั้งแต่แก้วที่ดื่มง่าย สดชื่นๆ ใสๆ เช่น Jackfruit Sprizt, June Bug Highball, Mama Sour ฯลฯ ไปจนถึงสปิริตฟอร์เวิร์ดหนักๆ เข้มๆ อย่าง Turmeric Coffee Old Fashion, Mango Manhattan, Palo Santo Negroni ฯลฯ

.

Vesper อยู่ที่ซอยศาลาแดง 2 ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 17.30 - 01.00 น.

บาร์สไตล์ทรอปิคัลในซอยเจริญกรุง 28 ของบาร์เทนเดอร์ชาวสวีเดน Sebastian de la Cruz และ Philip Stefanescu ที่มาพร้อมกับบรรยากาศซัมเมอร์สดใสและเครื่องดื่มที่เน้นใช้รัมผสกับน้ำผลไม้ต่างๆ ดีกรีอันดับ 24 จาก World’s 50 Best Bars ปี 2022 และล่าสุดอันดับ 6 จาก Asia’s 50 Best Bars ปี 2023

ตัวร้านได้เปลี่ยนบ้านเก่าให้กลายเป็นบาร์ ตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ลายนกแก้วและนกฟลาเมนโก้สีชมพู รวมไปถึงการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ โซฟาแบบวินเทจ ไฟนีออนรูปสับปะรด และดอกกล้วยไม้ในการตกแต่ง ที่นี่ไม่ใช่บาร์ทิกิ แต่เป็นบาร์ที่ผสมผสานความเป็น "ทรอปิคัล" เข้าด้วยกันมากกว่า (การจะเป็นบาร์ทิกิได้ เครื่องดื่มในเมนูจะต้องเบสรัม 99% ต้องมีการตกแต่งธีมโพลินีเซียน และเพลงที่ให้ความรู้สึกราวกับเดินในป่าฝนเขตร้อนเท่านั้น)

Tropic City เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 19.00-01.00 น. สามารถสำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 097 242 2890

บาร์ใหม่อายุปีกว่าๆ ของ ‘หนึ่ง - รณภร คณิวิชาภรณ์’ และ ‘แจน - เจนญ์ณรงค์ ภูมิจิตร’ จาก #FindTheLockerRoom ที่มาแรงด้วยการเป็น New Entry เข้าไปติดอันดับ 22 ของ Asia’s 50 Best Bars ปี 2023 เป็นที่เรียบร้อย พ่วงด้วยตำแหน่งบาร์เปิดใหม่ที่ดีที่สุดจาก London Essence ของเวทีเดียวกัน

ความโดดเด่นอีกอย่างของมหานิยมคือการตกแต่งแบบ Thai Roccoco (Thai-Rocco-Disco) ที่ให้ความรู้สึกสนุก มีสีสัน แฝงกลิ่นอายของความคลาสสิกแบบไทยๆ เช่น หมอนขิดทรงสามเหลี่ยม เฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลเข้มๆ ดีไซน์โดนใจคุณแม่ ลวดลายที่อยู่บนเบาะที่นั่ง ยูนิฟอร์มพนักงาน รวมถึงโลโก้รูปเสือสองหัว (ตัวแทนของหนึ่งและแจน) ซึ่งมาจากความเชื่อเรื่องอำนาจ ความน่าเกรงขาม และเรื่องเสน่ห์ เมตตามหานิยมที่คนไทยมีต่อเสือ แทนที่จะดูเชยแต่พอทุกอย่างรวมกันแล้วกลับทำให้เรารู้สึกว่าเป็นการนำเสนอความเป็นไทยในแบบที่เท่ ทันสมัยและน่ารักมากๆ

ค็อกเทลมาในคอนเซ็ปต์ Resourceful Cocktail ซึ่งก็คือการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบหนึ่งอย่างให้ได้มากที่สุดสำหรับการทำค็อกเทล 1 แก้ว ไม่ว่าจะเป็นดอก ใบ ผล เนื้อ น้ำ ราก ลำต้น โดยพยายามเหลือทิ้งให้น้อยที่สุด บาร์เทนเดอร์จึงต้องอาศัยสารพัดเทคนิคเพื่อสกัดรสชาติและกลิ่นจากวัตถุดิบแต่ละชนิด

มหานิยม ค็อกเทลบาร์ อยู่บนชั้น 2 ของร้าน 100 มหาเศรษฐ์ (สาขาสี่พระยา) ถนนมหาเศรษฐ์ ร้านเปิดวันอังคาร - อาทิตย์ (ปิดทุกๆวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ติดต่อเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 061 664 6588

Opium Bar เป็นส่วนหนึ่งของ Restaurant.Potong ของ เชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม คืออีกหนึ่ง New Entry โดยเข้ามาในอันดับ 59 ของ Asia’s 50 Best Bars 2023 หลังจากเปิดตัวเมื่อช่วงปลายปี 2021 ถือเป็นอีกหนึ่งบาร์ที่น่าจับตามอง

ร้านตั้งอยู่ในตึกเก่า 5 ชั้นของบรรพบุรุษที่เคยเป็นร้านขายยาจีน ส่วน Opium หรือ ฝิ่น ตั้งชื่อตามเรื่องราวเบื้องหลังของห้องซึ่งเมื่อก่อนเป็นห้องสูบฝิ่นของคุณเทียดของเชฟแพม ซึ่งถือไลฟ์สไตล์หนึ่งของพ่อค้าจีนในยุคนั้น และเหมือนกับพื้นที่อื่นๆ ของตึก เชฟแพมเลือกที่จะตกแต่งห้องนี้โดยเก็บความเก่าไว้แล้วใส่ความใหม่ลงไปให้เข้ากัน บาร์จึงออกมาในมาดเข้มขรึม มีกลิ่นไอของความวินเทจปนอยู่กับความหรูแบบเท่ๆ ดูเก่าแต่ไม่แก่

เครื่องดื่มที่นี่โดดเด่นด้วยวัตถุดิบที่ทางร้านคราฟต์เองแทบจะทุกอย่าง นำเสนอคอนเซ็ปต์ Liquid Surreality พาเราเข้าสู่โลกเหนือจริงของการดื่ม โดย เค-อานนท์ ฮุนตระกูล บาร์ไดเรกเตอร์ชาวไทยที่เกิดและโตที่ฝรั่งเศส เป็นเจ้าของร้านอาหาร บาร์ และร้านกาแฟหลายที่ในทั้งสองประเทศ ร่วมกับ Matteo Cadeddu เฮดบาร์เทนเดอร์ชาวอิตาลีที่ออกเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในบาร์มาแล้วทั่วโลกนานกว่า 13 ปี

Opium Bar อยู่ในซอยวานิช 1 เปิดทุกวันพฤหัสบดี-จันทร์ (ปิดอังคาร-พุธ) ตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป แนะนำให้จองก่อนที่เบอร์ 082-979-3950

แม้จะเป็นที่รู้จักจากรางวัลการันตีคุณภาพมากมายทั้งที่มอบให้ร้านและบาร์เทนเดอร์แต่ก็ยังยืนหนึ่งเรื่องการเป็น ‘บาร์ลับ’ อยู่ดี สำหรับ #FindTheLockerRoom บาร์ลับหลังห้องล็อกเกอร์อายุ 5 ปี เจ้าของอันดับ 78 จาก Asia’s 50 Best Bars 2023

ตอนนี้ร้านย้ายจาก Arena 10 ซอยทองหล่อ 10 มาอยู่ในตึกแถวระหว่างซอยทองหล่อ 12-14 ก่อนหน้านี้เมนูเครื่องดื่มที่ร้านจะใช้คอนเซ็ปต์ Past - Present - Future ตีความค็อกเทลในรูปแบบของช่วงเวลาโดย Past คือคลาสสิกค็อกเทล Present คือการนำคลาสสิกค็อกเทลมาทวิสต์และ Future คือการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ส่วนเมนูใหม่ที่ปล่อยมาได้สักพักแล้วมาในคอนเซ็ปต์ Time Capsule ยังคงเล่นกับเรื่องของช่วงเวลาเหมือนเดิม แต่รอบนี้ทุกอย่างจะอยู่ในส่วนของ ‘อดีต’

ใน Menu Vol.1 พาเรากลับสู่ยุค 60’s - 80’s ผ่านค็อกเทล 9 แก้วที่ได้แรงบันดาลใจจากแฟชั่น ของเล่น และดนตรีในแต่ละยุค เหนือสิ่งอื่นใด ขอบอกว่าสิ่งที่ดีงามไม่แพ้ค็อกเทลเลยก็คือติ่มซำ ใครไปแบบหิวๆ แนะนำให้สั่งมารองท้องเลย เราสั่งขนมจีบกุ้งกับไก่แช่เหล้าไปอร่อยใช้ได้เลย

#FindTheLockerRoom เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

 

Asia Today แห่งซอยนานา เยาวราช ปีนี้มาในอันดับที่ 68 ความโดดเด่นของบาร์แห่งนี้คือการผสมผสานความเป็นเอเชียที่หลายคนมองว่า "ไม่มีรสนิยม" และดูไม่เข้ากัน ไม่ว่าจะเป็นหุ่นฉลามสีขาวห้อยลงมาจากเพดาน โปสเตอร์เก่า รวมไปถึงป้ายตลกๆ อย่าง "This bar is better than Teens of Thailand" โดยบาร์แห่งนี้เน้นการใช้วัตถุดิบที่ไม่ค่อยนิยมใช้ในการทำเครื่อง เช่น ใบฮอวอ (สมุนไพรท้องถิ่นของชาวปกาเกอะญอ) รวมไปถึงน้ำผึ้งป่าจากแหล่งต่างๆ ทั่วประเทศไทย เป็นต้น

Asia Today เปิดทุกวัน 18.00 - 23.00 น.

บาร์บนชั้น 56 ของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok กับอันดับที่ 99 ของ Asia’s 50 Best Bars ในปีนี้ โดดเด่นจากการผสมผสานความหรูหราของรายละเอียดสไตล์ Art Nouveau เข้ากับดีเทลศิลปะเท่ๆ สไตล์นิวยอร์กลอฟต์ได้อย่างลงตัว โอบล้อมด้วยวิวมุมสูงของกรุงเทพฯ ที่ในวันที่ฟ้าเปิดสามารถมองไปได้ไกลถึงบางกระเจ้าเลยทีเดียว เหมาะกับการนั่งชิลละเลียดเครื่องดื่มที่มีให้เลือกนับร้อยชนิด

เมนูเครื่องดื่มของ The Loft สร้างสรรค์โดย Michele Montauti หัวหน้าบาร์เทนเดอร์และผู้จัดการบาร์ ที่มีประสบการณ์ปรุงค็อกเทล ณ หลากหลายบาร์ชั้นนำของกรุงเทพฯ จึงแน่ใจได้ว่านอกจากหน้าหล่อๆ แล้วคุณยังจะได้จิบค็อกเทลรสเยี่ยมอีกด้วยเช่นกัน

The Loft อยู่บนชั้น 56 ของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok เปิดทุกวัน 17.00 น. เป็นต้นไป